การจัดการขยะ ด้วยแนวคิด 7 R



การจัดการขยะ

เปลี่ยนขยะเป็นทรัพยากรและพลังงาน


1. การจัดการขยะด้วยแนวคิด 7 R

แนวคิดด้านการจัดการขยะเพื่อการปรับตัวต่อภาวะโลกร้อน คือก่อนจะทิ้งขยะควรหยุดคิดสักนิดว่าจะสามารถลดปริมาณขยะ หรือนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ แนวคิดที่น่าสนใจคือแนวคิด 7R ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้



1)      Rethink  ( คิดใหม่ )
เป็นการเปลี่ยนความคิดเรื่องการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างถูกต้องเหมาะสมไม่ได้ทำตามกระแสแต่อย่างเดียว  แต่ทำจากใจหรือจากจิตสำนึกที่ดี  เช่น
-          การซื้อสินค้าที่ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
           เช่น การใช้หลอดไฟ LED, .เลือกใช้อุปกรณ์ที่กินไฟน้อย

2)      Reduce  ( ลดการใช้ )
เป็นการลดใช้ทรัพยากรให้เหลือเท่าที่จำเป็นหรือนำมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด  เช่น
-           ใช้ถุงผ้าหรือตะกร้าหวาย…เลิกง้อถุงพลาสติก
-          ใช้กล่องข้าวหรือปิ่นโต…ลดการใช้โฟม
-          ใช้แก้วน้ำส่วนตัว…งดใช้แก้วที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
-          พยายามอย่าใช้กระดาษสิ้นเปลือง  ควรพิมพ์และถ่ายเอกสารเท่าที่จำเป็น  จะช่วยลดการตัดต้นไม้และลดพลังงานในการผลิตได้
-          ลดเว้นขอบกระดาษลงจากมาตรฐาน  เช่น  การลดขอบเอกสารด้านซ้ายจาก 3.175 ซม. เป็น 2.5  ซม. และขอบขวาจาก  3.175 ซม. เป็น 1.25  ซม.สามารถใช้พื้นที่กระดาษเพิ่มได้มากขึ้นถึง  27%
-          ลองลดปริมาณน้ำในถังชักโครก  ด้วยการใส่ก้อนอิฐหรือขวดน้ำไปแทนที่น้ำ
-          ปิดน้ำเสมอเมื่อเลิกใช้งาน  ร่วมกันสอดส่องไม่ให้น้ำเปิดไหลทิ้งก่อนจะออกจากห้องน้ำ
-          รินน้ำดื่มให้พอดี  และดื่มให้หมดทุกครั้ง  หากดื่มน้ำเหลือนำมาใช้รดน้ำต้นไม้  หรือรวบรวมเพื่อทำความสะอาดสิ่งต่างๆ
-          ใช้แก้วน้ำตอนแปรงฟันและล้างหน้า  เนื่องจากการแปรงฟันโดยใช้น้ำจากแก้ว…จะใช้น้ำเพียง 0.5 – 1 ลิตร  แต่หากปล่อยน้ำไหลออกจากก๊อกตลอดเวลาจะใช้น้ำถึง 20-30  ลิตร
-          เลือกใช้ฝักบัวอาบน้ำและปิดน้ำในขณะที่ถูสบู่…จะใช้น้ำเพียง 30  ลิตร หากไม่ปิดอาจใช้ถึง 90  ลิตร แต่ถ้าใช้อ่างอาบน้ำต้องใช้น้ำถึง  110 – 200 ลิตร  เลยทีเดียว
-          ล้างผักและผลไม้ในอ่างหรือภาชนะที่มีการกักเก็บน้ำเพียงพอดีกว่าล้างโดยตรงจากก๊อก ประหยัดน้ำได้มากกว่า 50%
-          ทานอาหารให้เต็มอิ่ม  แต่อย่าเหลือทิ้ง…อย่าเหลือขว้าง  เพราะกว่าจะเป็นอาหาร  ต้องใช้พลังงานในการผลิตนะครับ
-          สนับสนุนการซื้อสินค้าในท้องถิ่นช่วยลดเชื้อเพลงในการขนส่งและช่วยพ่อค้าแม่ค้า  แถวบ้านให้มีงานทำ

3)      Reuse  ( ใช้ซ้ำ )
เป็นการนำกลับมาใช้ใหม่ หรือใช้อีกครั้ง หรือหลายๆครั้ง เช่น
-          แยกประเภทกระดาษที่ใช้แล้วเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่อย่างเหมาะสมกระดาษดีนำมาใช้พิมพ์ใหม่เป็นกระดาษ 2 หน้าสำหรับเอกสารร่าง  กระดาษยับนำมาตัดเป็นกระดาษโน้ต  กระดาษ 2 หน้าทำเป็นถุงใส่ของ
-          บริจาคสิ่งของที่เลิกใช้แล้วแต่มีสภาพดีให้กับผู้ที่ขาดแคลน
-          ประกวดนวัตกรรมนำขยะกลับมาใช้ซ้ำ  เช่น  การนำกระดาษมาเป็นซองใส่ยา ฯลฯ
-          ใช้ถุงพลาสติกซ้ำหลายๆครั้งตามสภาพความเหมาะสม



4)      Recycle  ( นำกลับมาใช้ใหม่ )
เป็นการนำวัสดุที่หมดที่หมดสภาพแล้วหรือที่ใช้แล้วมาแปรสภาพด้วยกระบวนการต่าง ๆ เพื่อนำกลับมาใช้หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่  เช่น
-          คิดก่อนทิ้งว่าขยะ…ช่วยกันแยกประเภทขยะเพื่อให้ได้ขยะรีไซเคิลมากที่สุดและเพื่อช่วยลดขั้นตอนและลดพลังงานในการกำจัดขยะ  เนื่องจากขยะแต่ละชนิดมีวิธีการกำจัดที่ไม่เหมือนกัน
-          สร้างธนาคารขยะที่ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน  เพื่อการหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
-          คัดแยกขยะประเภทกระดาษ  แก้ว โลหะ…เพื่อการนำกลับไปรีไซเคิลได้ไม่รู้จบ
-          คัดแยกขยะประเภทกล่องนม…เพื่อบริจาคนำไปผลิตแผ่นกรีนบอร์ด



5)  Repair  ( ซ่อมแซม )
เป็นการซ่อมแซมให้ใช้การได้ใหม่  เช่น
-          กระป๋องพลาสติก  ที่แตกร้าวหรือเป็นรูใช้กาวประสานหรืออุดรูเหล่านั้นมันก็ยังใช้ได้เหมือนเดิม  ทำให้อายุการใช้งานนานขึ้น การกลายเป็นขยะก็ยืดเวลาออกไป


-      เก้าอีพัง ขาหัก ก็สามารถนำมาซ่อมได้

6)  Reject  ( ปฏิเสธ )
เป็นการปฏิเสธการใช้ทรัพยากรแบบครั้งเดียวทิ้งหรือหารนำเข้าจากแดนไกล  หรือการปฏิเสธใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำลายโลก  เช่น พลาสติก  กล่องโฟมบรรจุอาหาร

7)  Return ( ตอบแทน )
เป็นการตอบแทนสิ่งที่พวกเราได้ทำลายไปคืนสู่โลก เช่น
- ปลูกต้นไม้กันเยอะ ๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวคืนแก่โลก ช่วยโลกสดใส ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดปัญหาโลกร้อน

http://www.environnet.in.th/?p=3917
Read more >>

ดินปุ๋ยจากวัสดุธรรมชาติ

วิธีการทำปุ๋ยดิน 

.ใบไม้แห้งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ดีกว่าทิ้งไปเฉยๆ

วัสดุและอุปกรณ์ในการทำปุ๋ยดิน

  •  ใบไม้แห้ง
  •  น้ำหมักชีวภาพ(ปุ๋ย EM)
  •  น้ำเปล่า
  •  ถังเปล่า

วิธีการทำ มีขั้นตอนดังต่อไปนี้



1. เตรียมใบไม้แห้งที่ได้จากการเก็บ กวาดทำความสะอาดสวนป่าหน้าสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่     6นนทบุรี ในปริมาณ 5-6 กิโลกรัม

2. ผสมน้ำหมักชีวภาพ กับน้ำเปล่าในอัตราส่วน ปุ๋ย EM 1 ลิตร ต่อ น้ำเปล่า 15 ลิตร


3. นำน้ำหมักผสมน้ำเปล่า มารดใส่ใบไม้ที่เตรียมไว้แล้ว


4. ผสมให้น้ำหมักและใบไม้เข้ากัน


5. ตักใส่ในถัง หมักไว้ 7-8 วัน นำน้ำปุ๋ยหมัก EM รดใส่ในถังอีกหนึ่งครั้ง ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 วัน


6.หลักจากการหมัก 15-20 วัน


7. นำปุ๋ย EM ผสมกับน้ำ ในอัตราส่วน 1 ลิตร ต่อ น้ำเปล่า 10 ลิตร หมักต่ออีกประมาณ 30 วัน

8. จะได้ปุ๋ยดินที่ดี มีคุณภาพ และมีประโยชน์ สามารถนำไปใช้ได้เลย



ข้อมูลจาก สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 6 นนทบุรี

Read more >>

สิ่งประดิษฐ์ของจักรยาน

สิ่งประดิษฐ์ที่(อาจ)จะเปลี่ยนการขี่จักรยานไปตลอดกาล

เราคงได้ยินกันมาแล้วว่า จักรยานเป็นคำตอบอย่างหนึ่งต่อการ “มีสุขภาพดี” ของคนเราและสิ่งแวดล้อม เมืองจำนวนมากขึ้นทุกที โดยเฉพาะเมืองที่ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์มองการณ์ไกล ได้หันมาส่งเสริมการใช้จักรยานเป็นวิธีการเดินทางที่สำคัญอย่างหนึ่งควบคู่ไปกับการเดินสำหรับการเดินทางระยะสั้นๆ และขนส่งสาธารณะสำหรับการเดินทางไกลออกไป (ในขณะที่เมืองในประเทศไทย รวมทั้งเมืองหลวงกรุงเทพมหานคร ยังตามหลังอยู่ห่างไกล)

แต่แม้จะมีการส่งเสริมกันอย่างจริงจัง ก็มีเหตุผลหนึ่งที่หลายคนใช้อ้างในการไม่ออกมาใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน ทั้งที่ขี่แล้วก็สนุกและความจริงก็ใช้ไปไหนมาไหนได้จริง (ถามคนที่ใช้จักรยานเดินทางอยู่แล้วดู) ก็คือ ไม่สะดวก ขี่แล้ว “เหนื่อย” “ร้อน” ซึ่งเกิดจากการใช้พลังงานของคนขี่เองในการขับเคลื่อนจักรยานไปข้างหน้า (ไม่ใช่ “ร้อน” จากแดดหรืออุณหภูมิรอบข้าง คนที่เดินก็ได้รับผลเหมือนกัน อีกทั้งยัง “ร้อน” กว่าด้วย เนื่องจากไม่ได้รับลมที่เกิดขึ้นเมื่อขี่จักรยานด้วย)
บัดนี้มีสิ่งประดิษฐ์ที่จะทำให้ข้ออ้างดังกล่าวไม่อาจเป็นข้ออ้างได้อีกต่อไป นักวิจัยที่สถาบันเทคโนโลยีแมสสาชูเส็ทส์ (MIT – Massachusetts Institute of Technology) ใช้เวลาหลายปีพัฒนาอุปกรณ์อย่างหนึ่งขึ้นมาสำเร็จเป็นนวัตกรรมใหม่ ให้ชื่อว่า “วงล้อโคเปนเฮเก็น(Copenhagen Wheel)ตามชื่อเมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ก วงล้อนี้เอามาใส่แทนล้อหลังธรรมดาของจักรยานทั่วไป ทำให้จักรยานคันนั้นกลายเป็นจักรยานลูกผสม (hybrid) ที่ขับเคลื่อนทั้งด้วยแรงคนและมอเตอร์ไฟฟ้า ในกล่องรูปจานสีแดงตรงกลางล้อนี้มีมอเตอร์ แบตเตอรี่ที่เปลี่ยนได้ อุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สาย อุปกรณ์ล็อคที่ชาญฉลาด(smart locking)เซนเซอร์หลายตัว และระบบควบคุมในตัว และใช้สมาร์ทโฟนที่ติดตั้งกับจักรยานพร้อมโปรแกรมที่ดาวน์โหลดเพิ่มลงไป กำกับการขี่ให้เป็นไปตามที่ต้องการ ติดตามกิจกรรมทางกายของคุณ และรวบรวมข้อมูลการขี่ของคุณและสภาพแวดล้อมรอบข้าง เช่น มลพิษทางอากาศ ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อุณหภูมิ ฯลฯ ที่คุณสามารถเอามาวิเคราะห์และแบ่งปันให้คนอื่นหรือให้ผู้บริหารเมืองเอาไปใช้ในการพัฒนาเมืองได้ เมื่อเคลื่อนที่ไป วงล้อจะเรียนรู้แบบแผนการปั่นของคุณและเก็บพลังงานไว้ในรูปแบบไฟฟ้าเมื่อคุณเบรกหรือขี่ลงเนิน และนำมาใช้ขับเคลื่อนมอเตอร์ซึ่งจะทำงานเองโดยไม่ต้องเปิดปิด ช่วยออกแรงผลักมากกว่าแรงที่คุณปั่นธรรมดา 3-10 เท่าในยามที่ต้องการ เช่น ในการขี่ขึ้นเนินหรือสะพาน หรือขี่ไกลๆ ทำให้ขี่ได้ราบรื่น ไม่ต้องออกแรงเพิ่ม “เหนื่อย” และ “ร้อน” น้อยลง

สนใจแล้วใช่ไหม เข้าไปดูวิดีโอคลิปเต็มๆ ที่นี่ครับ


 แล้วคุณจะทึ่ง เจ้าสิ่งประดิษฐ์นี้อาจเปลี่ยนการขี่จักรยานไปตลอดกาลก็ได้ ฝรั่งที่เอาข่าวนี้มาเผยแพร่เขาว่าไว้อย่างนั้น

กวิน ชุติมา เรียบเรียงจาก See The Invention That Just Changed Biking Foreverใน http://sharepowered.com/community/copenhagen-wheel-mit-bike-invention/#sthash.pWdhdoJM.dpuf

http://www.thaicyclingclub.org/article/detail/1995
Read more >>